ข้อบังคับ

ของ

สมาคมผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตไทย

----------------------------------------------

                สมาคมการค้านี้จัดตั้งตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า  พ.ศ. 2509 และอยู่ในการควบคุมดูแลของสำนักงานทะเบียนสมาคมการค้า ประจำ  จังหวัดนนทบุรี

 

หมวดที่ 1

บทความทั่วไป

                ข้อ 1. ชื่อของสมาคมการค้า   สมาคมการค้านี้ ชื่อว่า สมาคมผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตไทย

                                เขียนชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ว่า   Thai Internet Service Shop Association

                                เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ว่า ไทย อินเทอร์เน็ต เซอร์วิส ช้อป แอสโซซิเอชั่น

                        คำว่า สมาคมต่อไปในข้อบังคับนี้ ให้หมายความถึง สมาคมผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตไทย

                ข้อ 2. สำนักงานของสมาคม  ตั้งอยู่    เลขที่   110/6  หมู่ที่   3   ถนนรัตนาธิเบศร์   ตำบลไทรม้า 

อำเภอเมืองนนทบุรี  จังหวัดนนทบุรี

                ข้อ 3. ตราของสมาคม  มีเครื่องหมายเป็นรูป    ดังนี้

 

 

 

 

 

หมวดที่ 2

วัตถุที่ประสงค์

 

                ข้อ 4. สมาคมนี้มีวัตถุที่ประสงค์ดังต่อไปนี้ .-

                         (1) ส่งเสริมการประกอบวิสาหกิจประเภทที่เกี่ยวกับ ผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ต

                         (2) สนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิกแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องต่างๆ รวมทั้งเจรจาทำความ

ตกลงกับบุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ร่วมกันในการประกอบวิสาหกิจประเภทที่อยู่ในวัตถุที่ประสงค์  สอดส่องและติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดการค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ เกี่ยวกับสินค้าที่สมาชิกประกอบวิสาหกิจ เพื่อให้เป็นประโยชน์ แก่การค้า การเงิน เศรษฐกิจ หรือ ความมั่นคงของประเทศ

                 (3) ทำการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิสาหกิจประเภทที่อยู่ในวัตถุที่ประสงค์ แลกเปลี่ยนและเผยแพร่ความรู้ในทางวิชาการ ตลอดจนข่าวสารการค้า  อันเกี่ยวกับการวิสาหกิจนั้นๆ

                             (4) ขอสถิติหรือเอกสาร หรือขอทราบข่าวข้อความใดๆ จากสมาชิกเกี่ยวกับการดำเนินวิสาหกิจประเภทที่อยู่ในวัตถุที่ประสงค์  ทั้งนี้ด้วยความยินยอมของสมาชิก

                             (5) ส่งเสริมคุณภาพการให้บริการและการค้า  โดยผู้ประกอบวิสาหกิจที่เป็นสมาชิกให้เข้ามาตรฐาน ตลอดจนวิจัยและปรับปรุง  วิธีการให้บริการและการค้า  ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

                             (6) ร่วมมือกับรัฐบาลในการส่งเสริมการให้บริการและการค้า อุตสาหกรรม การเงินหรือธุรกิจอื่นใด ในทางเศรษฐกิจอันอยู่ในวัตถุที่ประสงค์

                             (7) ส่งเสริมการให้บริการ   เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอแก่ความต้องการของตลาดภายในประเทศ

                             (8) ทำความตกลงหรือกำหนดระเบียบให้สมาชิกปฏิบัติ เพื่อให้การประกอบวิสาหกิจประเภทที่อยู่ในวัตถุที่ประสงค์ได้ดำเนินไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย

                 (9) ประนีประนอมข้อพิพาทระหว่างสมาชิก หรือระหว่างสมาชิกกับบุคคลภายนอก ในการประกอบวิสาหกิจ

                             (10)  ปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิก             

                             (11) ไม่มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งโต๊ะบิลเลียดหรือโต๊ะสนุกเกอร์

 

หมวดที่ 3

สมาชิกและสมาชิกภาพ

 

                 ข้อ 5. ประเภทสมาชิก  สมาชิกของสมาคมแบ่งออกเป็นสามประเภท และมีคุณสมบัติดังนี้   คือ.-

                             (1) สมาชิกสามัญ ได้แก่ บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจ ประเภท

ร้านอินเทอร์เน็ต   ซึ่งได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

                         (2) สมาชิกวิสามัญ ได้แก่  นิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจในทางการค้า           อุตสาหกรรม หรือ การเงิน  อันเกี่ยวเนื่องกับ  แฟรนไชส์ร้านอินเทอร์เน็ต   เครื่องคอมพิวเตอร์  อุปกรณ์คอมพิวเตอร์  อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์  โปรแกรมคอมพิวเตอร์   เกมส์คอมพิวเตอร์  นิตยสารเกี่ยวกับร้านอินเทอร์เน็ต   เพลงทางอินเทอร์เน็ต  โทรทัศน์ทางอินเทอร์เน็ต  และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต  ซึ่งได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

                             (3) สมาชิกกิตติมศักดิ์  ได้แก่ บุคคลซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือเป็นผู้ที่มีอุปการะคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการมีมติให้เข้าเป็นสมาชิก และผู้นั้นตอบรับคำเชิญ

                 ข้อ 6. คุณสมบัติของสมาชิก  สมาชิกของสมาคมการค้านอกจากมีคุณสมบัติตามข้อ 5. แล้ว ยังต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้  คือ.-

                 (1) ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา

                                              1. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว

                                              2. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย   บุคคลไร้ความสามารถ หรือ  บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ          

                                              3. ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลให้ลงโทษจำคุก เว้นแต่ ความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ หรือความผิดซึ่งกระทำโดยประมาท

                                              4. ไม่เป็นโรคอันพึงรังเกียจแก่สังคม

                                              5. เป็นผู้มีฐานะมั่นคงพอสมควร

                                              6. เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย

                           7. มีสถานที่ประกอบการ และการให้บริการ อยู่ภายใต้ระเบียบของสมาคมที่กำหนดเกี่ยวกับสถานที่ประกอบการและการให้บริการ

                             (2)  ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล

                                                1. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

                                                2. มีฐานะมั่นคงพอสมควร

                             3. มีสถานที่ประกอบการ และการให้บริการ อยู่ภายใต้ระเบียบของสมาคมที่กำหนดเกี่ยวกับสถานที่ประกอบการและการให้บริการ

                 ให้นำความในข้อ 6 (1) 1 ถึง  6 มาใช้บังคับแก่คุณสมบัติของผู้แทนนิติบุคคลที่ได้รับแต่งตั้ง ให้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลที่เป็นสมาชิกตาม ข้อ 10. ด้วย

                 ข้อ 7. การสมัครเข้าเป็นสมาชิก  ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกสามัญ หรือสมาชิกวิสามัญของสมาคมจะต้องยื่นความจำนงต่อเลขาธิการ หรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการ ตามแบบพิมพ์ที่สมาคมได้กำหนดไว้  โดยมีสมาชิกสามัญเป็นผู้รับรองอย่างน้อยสองคน

                 ข้อ 8. การพิจารณาคำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขาธิการ หรือกรรมการผู้มีหน้าที่แทนเลขาธิการ นำใบสมัครเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการในคราวต่อไปหลังจากที่ได้รับใบสมัคร เมื่อคณะกรรมการมีมติให้รับหรือไม่รับผู้ใดเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขาธิการมีหนังสือแจ้ง  หรือ แจ้งทาง E-mail ให้ผู้นั้นทราบภายในเจ็ดวัน นับแต่วันลงมติ

                 ข้อ 9. วันเริ่มสมาชิกภาพ  สมาชิกภาพเริ่มตั้งแต่วันที่ผู้สมัคร ได้ชำระค่าลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิก และค่าบำรุงประจำปีของสมาคมเรียบร้อยแล้ว

                 ข้อ 10. สมาชิกที่เป็นนิติบุคคล  ต้องแต่งตั้งผู้แทนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่มีอำนาจกระทำกิจการแทนนิติบุคคลนั้นได้ไม่เกินสองคน เพื่อปฏิบัติในหน้าที่ และใช้สิทธิแทนนิติบุคคลนั้นได้ เพียงเท่าที่สมาชิกบุคคลธรรมดาประเภทเดียวกันนั้นจะพึงมี ในการนี้ ผู้แทนจะมอบหมายให้บุคคลอื่นกระทำการแทนหรือแต่งตั้งตัวแทนช่วงมิได้

                 บุคคลเดียวกันจะเป็นผู้แทนที่มีอำนาจกระทำการแทนสมาชิกเกินหนึ่งรายมิได้

                 ข้อ 11. การขาดจากสมาชิกภาพ  สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลง ในกรณีดังต่อไปนี้

                             (1) ตาย หรือสิ้นสภาพบุคคล

                             (2) ขาดคุณสมบัติตาม ข้อ 5.

                             (3) ลาออก โดยยื่นหนังสือลาออกต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการเห็นชอบ

                             (4) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย

                             (5) ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ

                             (6) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท

                             (7) คณะกรรมการลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิก  โดยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า สามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด ด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้.-

                                1.  กระทำการใดๆที่ทำให้สมาคมเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยเจตนา

                                2.  กระทำการละเมิดข้อบังคับ  และระเบียบที่สมาคมกำหนด โดยเจตนา

                                3.  ไม่ชำระเงินค่าบำรุงประจำปี   และได้รับการเตือนจากเจ้าหน้าที่  ครบสามสิบวันแล้ว

                ข้อ 12. ทะเบียนสมาชิก  ให้นายทะเบียนจัดทำทะเบียนสมาชิกเก็บไว้   สำนักงานของสมาคม

โดยอย่างน้อยให้มีรายการดังต่อไปนี้.

(1)    ชื่อและสัญชาติของสมาชิก

(2)    ชื่อที่ใช้ในการประกอบวิสาหกิจและประเภทของวิสาหกิจ

(3)     ที่ตั้งสำนักงานของสมาชิก

(4)    วันที่เข้าเป็นสมาชิก

 

หมวดที่ 4

สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก

               

                ข้อ 13. สิทธิของสมาชิก

                        (1) ได้รับความช่วยเหลือและการสงเคราะห์ในเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการอันอยู่ในวัตถุประสงค์ของสมาคม  จากสมาคมเท่าที่จะอำนวยได้

                        (2) เสนอความคิดเห็นหรือให้คำแนะนำต่อสมาคม  หรือคณะกรรมการในเรื่องใดๆ อันอยู่ในวัตถุที่ประสงค์ของสมาคมเพื่อนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของสมาคม

                       (3) ขอตรวจสอบกิจการและทรัพย์สินของสมาคมได้  โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อ เลขาธิการหรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการ

                        (4) เข้าร่วมประชุมอภิปรายแสดงความคิดเห็น  ซักถามกรรมการ  เสนอญัตติในการประชุมใหญ่สมาชิก

                         (5) มีสิทธิประดับเครื่องหมายของสมาคม

                         (6) สมาชิกสามัญเท่านั้นมีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่และมีสิทธิได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการ

                ข้อ 14. หน้าที่ของสมาชิก

                                (1) ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม  มติของที่ประชุมใหญ่  มติของคณะกรรมการ  และปฏิบัติหน้าที่ซึ่งตนได้รับมอบหมายจากสมาคมด้วยความซื่อสัตย์โดยเคร่งครัด

                                (2) ดำรงรักษาเกียรติและผลประโยชน์ส่วนได้เสียของสมาคม  ตลอดจนต้องรักษาความลับในข้อประชุมหรือวิธีการของสมาคม  ไม่เปิดเผยข้อความ  ซึ่งอาจจะนำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคมโดยเด็ดขาด

                                (3) ส่งเสริมและสนับสนุนกิจการของสมาคมให้เจริญรุ่งเรือง และมีความก้าวหน้าอยู่เสมอ                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               

                                (4) ต้องรักษาไว้ซึ่งความสามัคคีระหว่างสมาชิกและปฏิบัติกิจการค้าในทำนองช่วยเหลือกันด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

(5) ชำระค่าบำรุงให้แก่สมาคมตามกำหนด

                                สมาชิกผู้ใดเปลี่ยนชื่อ  ชื่อสกุล  สัญชาติ  ย้ายที่อยู่  ย้ายที่ตั้งสำนักงาน  เปลี่ยนแปลงประเภทวิสาหกิจหรือเปลี่ยนผู้แทนนิติบุคล  จะต้องแจ้งให้เลขาธิการทราบเป็นหนังสือภายในกำหนดเวลาเจ็ดวัน  นับแต่เปลี่ยนแปลง

 

หมวดที่  5

ค่าลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิก  และค่าบำรุงสมาคม

 

                ข้อ 15. ค่าลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิกและค่าบำรุงสมาคม

(1)    สมาชิกสามัญจะต้องชำระค่าลงทะเบียน   100  บาท   (   หนึ่งร้อยบาทถ้วน )

 และค่าบำรุงสมาคมเป็นรายปี ๆ ละ 3,000  บาท  (  สามพันบาทถ้วน )

(2)    สมาชิกวิสามัญจะต้องชำระค่าลงทะเบียน  100  บาท   (   หนึ่งร้อยบาทถ้วน )

        และค่าบำรุงสมาคมเป็นรายปี ๆ ละ 30,000  บาท   ( สามหมื่นบาทถ้วน )

(3)    สมาชิกกิตติมศักดิ์ไม่ต้องชำระค่าลงทะเบียนหรือค่าบำรุงอย่างใดทั้งสิ้น

                ข้อ 16. ค่าบำรุงพิเศษ  สมาคมอาจเรียกเก็บค่าบำรุงพิเศษจำนวนเท่าใดจากสมาชิกได้เป็นครั้งคราว  โดยที่ประชุมใหญ่ลงมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกสามัญที่มาประชุมทั้งหมด

 

หมวดที่ 6

คณะกรรมการของสมาคม

                ข้อ 17. ให้มีคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเป็นผู้บริหารงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคมและเป็นผู้แทนของสมาคมในกิจกรรมอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก  ประกอบด้วยสมาชิกสามัญที่เป็นบุคคลธรรมดา  หรือผู้แทนสมาชิกสามัญที่เป็นนิติบุคคล  ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่มีจำนวนไม่น้อยกว่าเจ็ดคน  และไม่เกินสิบห้าคน

             เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่ครั้งนั้นๆ จะมีมติอย่างอื่น การเลือกตั้งกรรมการให้กระทำด้วยวิธีลงคะแนนลับโดยให้สมาชิกสามัญ  เสนอชื่อของสมาชิกสามัญซึ่งตนประสงค์ให้เข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการ  ต่อ    ที่ประชุมใหญ่  โดยมีสมาชิกสามัญอื่นรับรองไม่น้อยกว่าสองคน  แล้วให้ที่ประชุมใหญ่ลงมติเลือกตั้ง  ให้ผู้ได้รับคะแนนสูงตามลำดับได้เป็นกรรมการตามจำนวนที่กำหนดไว้ในวรรคแรก  ตามมติที่ประชุมใหญ่ครั้งนั้น ๆ ถ้ามีผู้ได้คะแนนเท่ากันในลำดับสุดท้ายที่จะได้เป็นกรรมการคราวนั้น  ให้ที่ประชุมใหญ่ลงมติใหม่เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนเท่ากัน หากปรากฏว่าได้คะแนนเท่ากันอีกให้ใช้วิธีจับสลาก

                ให้คณะกรรมการเลือกตั้งกันเองเพื่อดำรงตำแหน่งนายกสมาคมหนึ่งคน  อุปนายก  เลขาธิการ  เหรัญญิก  นายทะเบียน  ปฏิคม  ประชาสัมพันธ์  ตำแหน่งละหนึ่งคน  และตำแหน่งอื่น ๆ ตามความเหมาะสมด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการที่ได้กำหนดหน้าที่ตามที่เห็นสมควร

                คณะกรรมการของสมาคม  อยู่ในตำแหน่งกรรมการได้คราวละสี่ปี  และให้มีการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ขึ้นแทนภายใน 180 วัน  การนับวาระกรรมการให้นับแต่วันที่ประชุมใหญ่มีมติเลือกตั้ง

                ภายใต้บังคับของมาตรา  19  และ  33  แห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า  พ.ศ.2509 กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งกรรมการไปแล้ว  อาจได้รับเลือกตั้งหรือแต่งตั้งเป็นกรรมการอีกก็ได้

                ข้อ 18. การพ้นจากตำแหน่งกรรมการ  กรรมการย่อมพ้นจากตำแหน่งในกรณีดังต่อไปนี้

(1)  ครบกำหนดออกตามวาระ

( 2 )   ลาออกโดยคณะกรรมการได้ลงมติอนุมัติแล้ว  เว้นแต่ การลาออกเฉพาะตำแหน่ง  ตาม ข้อ 17. วรรคสาม

(3)  ขาดจากสมาชิกภาพ

(4)  ที่ประชุมใหญ่มีมติให้ถอดถอน

                             (5)  เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สั่งให้ออก  ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509

(6)  ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509

                ในกรณีที่ผู้แทนสมาชิกซึ่งเป็นนิติบุคคลตามข้อ 10. ที่ได้รับการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง ตายหรือพ้นจากตำแหน่งผู้แทนของสมาชิกนั้น ผู้แทนคนใหม่ของสมาชิกรายนั้นๆ จะเข้าเป็นกรรมการแทนก็ได้

                ข้อ 19. กรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนครบกำหนดออกตามวาระ   คณะกรรมการอาจแต่งตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งให้เป็นกรรมการแทนได้ แต่กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งแทนนี้ให้เป็นกรรมการอยู่ได้ตามวาระของผู้ที่ตนแทน

                กรณีคณะกรรมการพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะก่อนครบกำหนดออกตามวาระ ให้คณะกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งนั้นดำเนินการจัดประชุมใหญ่สมาชิก เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นแทน ภายใน 180วัน ในกรณีนี้ให้นำความในข้อ 24. มาใช้บังคับโดยอนุโลม

                คณะกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งตามวรรคก่อน อยู่ในตำแหน่งได้ตามวาระของคณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งไป

                ข้อ 20. องค์ประชุมในการประชุมของคณะกรรมการ    การประชุมของคณะกรรมการจะต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะนับเป็นองค์ประชุม

                ในกรณีที่มีจำนวนกรรมการน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด กรรมการที่เหลืออยู่ย่อมทำกิจการได้เฉพาะแต่ในเรื่องที่จะตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นกรรมการเพิ่มขึ้นให้ครบจำนวน หรือนัดเรียกประชุมใหญ่ หรือกระทำกิจการอันสมควรทุกอย่างเพื่อปกป้องและรักษาประโยชน์ของสมาคม เท่านั้น

                ข้อ 21. มติของที่ประชุมคณะกรรมการ ให้ถือเอาคะแนนเสียงข้างมาก  กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งเสียงในการลงคะแนน  ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ผู้เป็นประธานในที่ประชุมมีคะแนนอีกหนึ่งคะแนนเป็นเสียงชี้ขาด

                ในกรณีที่ ที่ประชุมคณะกรรมการลงมติอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และหรือข้อบังคับนี้ให้ถือว่ามตินั้นใช้บังคับมิได้

                ข้อ 22. ประธานในที่ประชุม  ให้นายกสมาคมเป็นประธานในที่ประชุม ถ้านายกสมาคมไม่อยู่  หรือ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้อุปนายกผู้อาวุโสตามลำดับปฏิบัติหน้าที่แทน  ถ้าทั้งนายกสมาคมและอุปนายก  ไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุมเฉพาะในการประชุมคราวนั้น

                ข้อ 23. การประชุมคณะกรรมการ  ให้มีการประชุมคณะกรรมการอย่างน้อยสามเดือนต่อครั้ง  อนึ่ง ในกรณีจำเป็นนายกสมาคมหรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนหรือกรรมการรวมกันไม่น้อยกว่าสามคน จะเรียกประชุมพิเศษขึ้นก็ได้

                ข้อ 24. การเข้ารับหน้าที่ของกรรมการ เมื่อมีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ให้คณะกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งยื่นจดทะเบียนคณะกรรมการชุดใหม่ต่อนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัด นนทบุรี ภายในสามสิบวัน นับแต่เลือกตั้ง และส่งมอบหน้าที่ให้คณะกรรมการชุดใหม่ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่นายทะเบียนสมาคมการค้าฯรับจดทะเบียน

                ในกรณีที่นายทะเบียนสมาคมการค้าฯ ยังมิได้รับจดทะเบียนคณะกรรมการชุดใหม่  และคณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งยังมิได้ส่งมอบหน้าที่ตามวรรคแรก  ให้คณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งนั้นมีอำนาจหน้าที่บริหารกิจการของสมาคมต่อไป  จนกว่านายทะเบียนสมาคมการค้าฯจะรับจดทะเบียนคณะกรรมการชุดใหม่ และ คณะกรรมการชุดใหม่นั้นเข้ารับหน้าที่แล้ว   การรับมอบหน้าที่ให้กระทำเป็นลายลักษณ์อักษร

                ข้อ 25. อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ   มีดังนี้.-

(1)   จัดดำเนินกิจการและทรัพย์สินของสมาคมให้เป็นไปตามข้อบังคับ  ระเบียบ และมติของที่ประชุม

(2)   เลือกตั้งกรรมการให้ดำรงตำแหน่งต่างๆในคณะกรรมการ

(3)   วางระเบียบ  การปฏิบัติงานของสมาคมให้เป็นไปตามวัตถุที่ประสงค์

(4)   ว่าจ้าง แต่งตั้ง และถอดถอน ที่ปรึกษาของคณะกรรมการ อนุกรรมการ เจ้าหน้าที่ และพนักงานทั้งปวง ในการทำกิจกรรมเฉพาะอย่าง หรือ พิจารณาเรื่องต่างๆ อันอยู่ในขอบเขตหน้าที่ของสมาคม  เพื่อให้การดำเนินงานของสมาคม เป็นไปโดยเรียบร้อย  ที่ปรึกษาของคณะกรรมการและอนุกรรมการดังกล่าว จะแต่งตั้งจากกรรมการหรือสมาชิกของสมาคมหรือบุคคลภายนอกก็ได้

                ข้อ 26. อำนาจหน้าที่กรรมการตำแหน่งต่าง ๆ    มีดังนี้.-

                             (1) นายกสมาคม  มีหน้าที่อำนวยการเพื่อให้การดำเนินการของสมาคมเป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบการปฏิบัติงานของสมาคม  เป็นผู้ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการให้ดำเนินกิจการของสมาคมอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก  และเป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ  ตลอดจนในที่ประชุมใหญ่   

                             (2) อุปนายก  มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือนายกสมาคมในกิจการทั้งปวง  อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนายกสมาคม  และเป็นผู้ทำหน้าที่แทนนายกสมาคม  เมื่อนายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้

                             (3) เลขาธิการ  มีหน้าที่ทำการโต้ตอบหนังสือ  เก็บรักษาเอกสารต่างๆของสมาคม  เป็นเลขานุการในที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมใหญ่  ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการจะได้มอบหมาย

                             (4) เหรัญญิก  มีหน้าที่รักษาและจ่ายเงินของสมาคม  ทำบัญชีการเงินเก็บรักษาและจ่ายพัสดุของสมาคม  ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ  ตามที่คณะกรรมการจะได้มอบหมาย

                             (5) นายทะเบียน  มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดทำทะเบียนสมาชิกและทะเบียนต่าง ๆ อันมิใช่ทะเบียนเกี่ยวกับการเงินของสมาคม  ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการจะได้มอบหมาย

                             (6) ปฏิคม มีหน้าที่รักษาสำนักงานของสมาคม รักษาความเรียบร้อยของสถานที่ รักษาสมุดเยี่ยม  จัดสถานที่ประชุม  ดูแลต้อนรับ  ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการจะได้มอบหมาย

                             (7) ประชาสัมพันธ์  มีหน้าที่เกี่ยวกับการเชิญชวนหาสมาชิก  โฆษณากิจการและผลงานด้านต่าง ๆ ของสมาคม  ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการจะได้มอบหมาย

                ข้อ 27. ภายใต้บังคับแห่งความในหมวดนี้  ให้นำความในหมวดที่ 7 การประขุมใหญ่มาใช้บังคับโดยอนุโลม

 

หมวดที่ 7

การประชุมใหญ่

 

                ข้อ 28. การประชุมใหญ่ ให้คณะกรรมการจัดให้มีการประชุมใหญ่สมาชิกอย่างน้อยทุกระยะเวลาสิบสองเดือน  การประชุมครั้งนี้เรียกว่า  การประชุมใหญ่สามัญ

                การประชุมใหญ่คราวอื่นนอกจากการประชุมใหญ่ตามวรรคก่อน  เรียกว่า  การประชุมใหญ่วิสามัญ

                ข้อ 29. กำหนดการประชุมใหญ่

                           (1) ให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ภายในกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีทางบัญชีของสมาคมเป็นประจำทุก ๆ ปี

                            (2) ถ้ามีเหตุใดเหตุหนึ่งซึ่งคณะกรรมการมีมติเห็นสมควร  หรือสมาชิกมีจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดแสดงความจำนงโดยทำการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อเลขาธิการ  หรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการ ให้คณะกรรมการนัดประชุมใหญ่วิสามัญภายในกำหนดสามสิบวัน  นับแต่วันที่ลงมติหรือวันที่ได้รับหนังสือ

                ข้อ 30. การส่งหนังสือบอกกล่าวนัดประชุม  คณะกรรมการจะต้องส่งหนังสือบอกกล่าวถึงวัน เวลาสถานที่  และระเบียบวาระการประชุมใหญ่ไปให้สมาชิกทุกคนได้ทราบ  โดยส่งจดหมายทางไปรษณีย์

ลงทะเบียน  ณ ที่อยู่ของสมาชิกที่ปรากฏอยู่ในทะเบียน  หรือส่งให้ถึงตัวสมาชิก  ก่อนกำหนดวันประชุมใหญ่ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน

 

                การจัดส่งการบอกกล่าวตามวรรคแรก  ให้ส่งสำเนาบันทึกรายงานการประชุมใหญ่ครั้งที่แล้ว (ถ้ามี) ไปด้วย  ในกรณีที่เป็นการนัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี  จะต้องแนบสำเนารายงานประจำปี   และสำเนางบดุล  รวมทั้งสำเนาบัญชีรายรับ รายจ่าย ซึ่งผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบแล้วเพิ่มเติมไปด้วย

                ข้อ 31. องค์ประชุมในการประชุมใหญ่  ในการประชุมใหญ่  จะต้องมีสมาชิกสามัญมาประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง  ของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมดจึงจะถือเป็นองค์ประชุม

                สมาชิกสามัญคนใดไม่สามารถเข้าประชุมด้วยตนเองได้  อาจมอบฉันทะให้ผู้อื่นเข้าประชุมแทนได้

                ข้อ 32. กรณีการประชุมในครั้งแรกสมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม  หากล่วงพ้นกำหนดเวลานัดไปแล้วหนึ่งชั่วโมง  ยังมีสมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม  ถ้าการประชุมใหญ่คราวนั้นได้เรียกนัดเพราะสมาชิกร้องขอ  ให้เลิกการประชุมใหญ่นั้น  ถ้ามิใช่สมาชิกร้องขอ  ให้เลื่อนการประชุม  และให้ทำการบอกกล่าวนัดวัน  เวลา การประชุม และสถานที่ประชุมใหญ่นี้อีกครั้งหนึ่งภายในกำหนดสิบห้าวัน  นับแต่วันประชุมใหญ่คราวแรก  ในการประชุมใหญ่คราวหลังนี้จะมีสมาชิกมามากน้อยเพียงใดก็ให้ถือว่าเป็นองค์ประชุม

                ข้อ 33. ประธานในที่ประชุม  ให้นายกสมาคมเป็นประธานในที่ประชุมใหญ่  ถ้านายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้อุปนายกผู้มีอาวุโสตามลำดับทำหน้าที่แทน  ถ้าทั้งนายกสมาคมและอุปนายกไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้  ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งกรรมการคนหนึ่งคนใดขึ้นเป็นประธานในที่ประชุม  ถ้าไม่มีกรรมการอยู่ในที่ประชุม ก็ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งขึ้นเป็นประธานในที่ประชุม  เฉพาะการประชุมคราวนั้น

                ข้อ 34. วิธีออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่  สมาชิกสามัญเท่านั้นมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน  และสมาชิกสามัญคนหนึ่ง ๆ มีคะแนนเสียงหนึ่งเสียง

                ในการประชุมใหญ่ใด ๆ ข้อมติอันเสนอให้ลงคะแนน ให้ตัดสินด้วยวิธีชูมือ  หรือวิธีการอื่นใดอันเป็นการเปิดเผยว่าสมาชิกใดลงคะแนนเช่นไร  เว้นแต่เมื่อก่อนหรือในเวลาที่แสดงผลแห่งการชูมือนั้น  คณะกรรมการเห็นสมควรหรือได้มีสมาชิกสามัญสองคนเป็นอย่างน้อยติดใจร้องขอให้ลงคะแนนลับ

                ข้อ 35. มติของที่ประชุมใหญ่   นอกจากที่กล่าวไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้  ให้ถือเอาคะแนนเสียงข้างมากเป็นมติของที่ประชุมใหญ่  ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันจะเป็นการชูมือก็ดี  การลงคะแนนลับก็ดี  หรือด้วยวิธีการอื่นใดก็ดี  ให้ผู้เป็นประธานในที่ประชุมมีคะแนนอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

                ข้อ 36. กิจการอันพึงกระทำในการประชุมใหญ่    มีดังนี้.-

                             (1) รับรองรายงานการประชุมใหญ่คราวก่อน

                                            (2)  พิจารณารายงานประจำปี  แสดงผลการดำเนินกิจการของสมาคมที่ผ่านมาในรอบปี (ถ้ามี)

                             (3) พิจารณาอนุมัติงบดุล  (ถ้ามี)

                             (4) เลือกตั้งคณะกรรมการ  (ในปีที่ครบวาระ)

                             (5) เลือกตั้งที่ปรึกษาของสมาคมประจำปี  ผู้สอบบัญชีของสมาคมประจำปี  และกำหนดค่าตอบแทน  (ถ้ามี)

                             (6) กิจการที่ต้องทำโดยอาศัยมติจากที่ประชุมใหญ่

                ข้อ 37. กิจการอันพึงกระทำในการประชุมสมาชิกประจำเดือน  ได้แก่  กิจการอันเกี่ยวกับการปฏิบัติธุรกิจทั่วไปของสมาคม  นอกจากกิจการที่จำเป็นจะต้องกระทำโดยการประชุมใหญ่สามัญประจำปีหรือการประชุมใหญ่วิสามัญ

                ข้อ 38. การจัดทำรายงานบันทึกการประชุม  รายงานการประชุมคณะกรรมการ  การประชุมใหญ่  การประชุมสมาชิกอื่น ๆ และการประชุมอนุกรรมการ  ให้จดบันทึกไว้ทุกครั้ง  และต้องเสนอต่อที่ประชุมเพื่อรับรองในคราวที่มีการประชุมครั้งต่อไป  รายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองแล้ว  สมาชิกสามารถขอตรวจดูได้ในวันและเวลาทำการ

 

หมวดที่ 8

การเงิน  เงินทุนพิเศษ  และการบัญชีของสมาคม

                ข้อ 39. วันสิ้นปีทางบัญชี  ให้ถือเอาวันที่  31 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันสิ้นปีทางบัญชีของสมาคม

                ข้อ 40. การจัดทำงบดุล  ให้คณะกรรมการจัดทำงบดุลที่เป็นอยู่ ณ วันสิ้นปีทางบัญชีนั้นแล้วส่งให้ผู้สอบบัญชีไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี  และผู้สอบบัญชีจะต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จก่อนวันประชุมใหญ่ประจำปีไม่น้อยกว่าสามสิบวัน

                งบดุลซึ่งผู้สอบบัญชีได้รับรองแล้ว  คณะกรรมการต้องดำเนินการเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญเพื่อพิจารณาอนุมัติภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี

                เมื่อเสนองบดุล  ให้คณะกรรมการเสนอรายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินงานของสมาคมต่อที่ประชุมใหญ่ด้วย

                ให้สมาคมส่งสำเนารายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินงานของสมาคมกับงบดุลไปยังนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัด นนทบุรี ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการประชุมใหญ่

                อนึ่ง ให้เก็บรักษารายงานประจำปี  แสดงผลการดำเนินงานของสมาคมกับงบดุลไว้ที่สำนักงานของสมาคม  เพื่อให้สมาชิกขอตรวจดูได้

                ข้อ 41. อำนาจของผู้สอบบัญชี  ผู้สอบบัญชีมีอำนาจเข้าตรวจสอบสรรพสมุด  บัญชีและบรรดาเอกสารเกี่ยวกับการเงินของสมาคม  และมีสิทธิสอบถามกรรมการตลอดจนเจ้าหน้าที่ของสมาคมทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีและเอกสารดังกล่าว  ในการนี้กรรมการและเจ้าหน้าที่จะต้องช่วยเหลือและให้ความสะดวกทุกประการเพื่อการตรวจสอบเช่นว่านั้น

                ข้อ 42. การเก็บรักษาสมุดบัญชีและเอกสารการเงิน  จะต้องเก็บรักษาไว้ ณ สำนักงานของสมาคมและให้อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของเหรัญญิก

                ข้อ 43. การเงินของสมาคม  เงินสดของสมาคมจะต้องนำฝากไว้ ณ ธนาคารพาณิชย์แห่งใดแห่งหนึ่ง  ซึ่งตั้งอยู่ในเขตท้องที่จังหวัดซึ่งสมาคมนี้ตั้งอยู่ในนามของสมาคม   โดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการ

                ให้มีเงินทดรองจ่ายเกี่ยวกับกิจการของสมาคมไม่เกินวงเงิน  10,000  บาท ( หนึ่งหมื่นบาท)ในการนี้เหรัญญิกเป็นผู้รับผิดชอบและเก็บรักษาตัวเงิน

                การฝากและการถอนเงินจากธนาคาร  ให้อยู่ในอำนาจของนายกสมาคมหรืออุปนายกหรือกรรมการคนใดคนหนึ่ง  โดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการลงนามร่วมกับเหรัญญิก

                ข้อ 44. การจ่ายเงินของสมาคม  ให้นายกสมาคม  มีอำนาจสั่งจ่ายเงินเกี่ยวกับกิจการของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน 100,000 บาท  (  หนึ่งแสนบาทถ้วน  )  อุปนายก  หรือเลขาธิการคนใดคนหนึ่ง  มีอำนาจสั่งจ่ายเงินเกี่ยวกับกิจการของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน 10,000  บาท  (  หนึ่งหมื่นบาทถ้วน )

                ในการจ่ายเงินครั้งละเกินกว่า 100,000 บาท  (  หนึ่งแสนบาทถ้วน  )  ให้กระทำโดยมติจากที่ประชุมคณะกรรมการทุกครั้งไป

                ข้อ 45. เงินทุนพิเศษ  สมาคมอาจหาเงินทุนพิเศษเพื่อดำเนินกิจการและส่งเสริมความก้าวหน้าของสมาคมได้  โดยการเชื้อเชิญบุคคลภายนอก  และสมาชิกร่วมกันบริจาคหรือกระทำการอื่นใด  ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรและไม่ขัดต่อกฎหมาย

 

หมวดที่ 9

การแก้ไขข้อบังคับ  การเลิกสมาคม  และการชำระบัญชี

 

                ข้อ 46. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือเพิ่มเติม ข้อบังคับ จะกระทำได้แต่โดยมติของที่ประชุมใหญ่  ซึ่งมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกสามัญที่มาประชุมทั้งหมด

                ข้อ 47. การเลิกสมาคม  สมาคมนี้อาจเลิกได้ด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้ .-

                             (1) เมื่อที่ประชุมใหญ่ลงมติให้เลิกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ ของจำนวนสมาชิกสามัญที่มาประชุมทั้งหมด

                             (2) เมื่อล้มละลาย

                             (3) เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สั่งให้เลิกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า  พ.ศ.2509

                ข้อ 48. การชำระบัญชี  เมื่อสมาคมนี้ต้องเลิกไปเพราะเหตุหนึ่งเหตุใดดังกล่าวในข้อ 47 การชำระบัญชีของสมาคมให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า  พ.ศ. 2509 มาใช้บังคับ

                ในกรณีที่สมาคมต้องเลิกไปตามข้อ  47 (1)  ให้ที่ประชุมใหญ่คราวนั้นลงมติเลือกตั้งกำหนดตัวผู้ชำระบัญชีเสียด้วย  และหากต้องเลิกไปตามข้อ  47 (3)  ให้กรรมการทุกคนในคณะกรรมการชุดสุดท้ายที่ได้จดทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัด  นนทบุรี  เป็นผู้ชำระบัญชี

                หากมีทรัพย์สินของสมาคมเหลือจากการชำระบัญชีให้ยกให้แก่นิติบุคคลในประเทศไทยที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการกุศลสาธารณะแห่งหนึ่งแห่งใด  หรือหลายแห่งตามมติของที่ประชุมใหญ่

 

 

หมวดที่ 10

บทเฉพาะกาล

 

                ข้อ 49. เมื่อนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัด  นนทบุรี ได้อนุญาตให้จัดตั้งเป็นสมาคมแล้ว  ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งทุกคนทำหน้าที่คณะกรรมการ  (ชั่วคราว)  จนกว่าจะได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการตามข้อบังคับนี้  ซึ่งจะต้องจัดให้มีขึ้นภายในกำหนดเวลาหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นสมาคมแล้ว

                ภายใต้บังคับแห่งความในวรรคแรก  กรณีที่มีการประชุมใหญ่เลือกตั้งคณะกรรมการชุดแรกในช่วงเวลาน้อยกว่าสามเดือน  นับแต่วันสิ้นปีทางบัญชีของสมาคม  ให้ถือเอาวันสิ้นปีทางบัญชีของสมาคมเป็นวันตั้งต้นคำนวณวาระกรรมการตามข้อ 17. วรรคสี่

                ข้อ 50. เพื่อประโยชน์แห่งความในข้อบังคับ ข้อ 7. ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งทุกคน  ทำหน้าที่เป็นสมาชิกสามัญ

                ข้อ 51. ให้ใช้ข้อบังคับนี้ ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัด นนทบุรี ได้อนุญาตให้จัดตั้งเป็นสมาคมเป็นต้นไป